คำพูดที่ได้ยินกันบ่อยๆ ในห้วงเวลาขณะนี้ คงหนีไม่พ้นคำว่า "สันติ" และ "อหิงสา" แต่คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องของความเข้าใจ และคงไม่ต้องมานั่งแปลความหมายอะไรกันอีกต่อไปแล้ว...
วันนี้เลยขอผ่านไปถึงคำอีกคำหนึ่ง นั่นก็คือ คำว่า "อภัย" คงจะดีกว่า เพราะเป็นคำที่มีค่า มีความหมายอย่างยิ่ง ในด้านจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้คนบนโลกทุกๆ คน ทุกรูป ทุกนาม เก็บสะสมให้มีไว้ให้เต็มเปี่ยมในหัวใจตนได้ โลกนี้คงสวยงาม น่าอยู่ มีแต่ความสงบ และสันติสุข มากขึ้นมากมาย
ในทางพระพุทธศาสนา การให้อภัย นับเป็นการทำบุญอันยิ่งใหญ่ หลายท่านที่คลุกคลีอยู่ในวงการนี้ คงทราบกันดีอยู่แล้ว และอีกอย่างคงหาอ่านเรื่องการให้อภัยในทางพระพุทธศาสนาได้ง่ายอยู่แล้ว เรื่องนี้ก็เลยขอผ่านไปพูดถึงการให้อภัย ที่ทำให้หัวใจมีความสุข ในแง่มุมทางโลก ด้านการใช้ชีวิต และสุขภาพ กันบ้าง...
มีผลการวิจัย Psychology Science มีนาคม 2001 ออกมาตอกย้ำยืนยันว่า รู้อภัยช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ จากการศึกษาบุคคลที่ถูกกระทำให้เจ็บช้ำใจ เช่น ถูกด่า ถูกดูถูกเหยียดหยาม ถูกเกลียดชังและปฏิเสธ ถูกหลอก ถูกหักหลัง ฯลฯ และแยกการตอบสนองเป็น กลุ่มที่คงความโกรธไปนานๆ กับ กลุ่มที่รู้อภัย พบว่า กลุ่มโกรธ มีอัตราการเต้นของหัวใจ และระดับความดันโลหิต สูงกว่ากลุ่มรู้อภัยถึง 2 เท่าครึ่ง นอกจากนั้น กลุ่มโกรธยังเหงื่อออกมาก มีอารมณ์ขุ่นมัว และเศร้าสร้อย โดยที่ ความรู้สึกโกรธ และเกลียดชัง ที่อยู่นานๆ นั้น เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคหัวใจ
มาถึงขั้นนี้แล้ว แม้การให้อภัย จะไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายนัก แต่เราควรฝึกการเป็นคนรู้อภัยกันดีกว่ามิใช่หรือ ดีกว่าปล่อยให้ความโกรธ เคียดแค้น เป็นฟืน เป็นไฟ เป็นเปลวเพลิง ควันไฟ ลุกโชน เผาไหม้ ให้ร้อนระอุ คละคลุ้ง ครุกรุ่น จนวอดวายกลายเป็นเถ้า ที่มีแต่จะทำลายล้างกันไปไม่มีที่สิ้นสุดอยู่อย่างนั้น
ถ้าไม่เห็นแก่คนอื่น ก็ขอให้เห็นแก่ตัวเอง เห็นแก่สุขภาพของตนเองบ้างก็ยังดี เพราะการรู้อภัยนั้น ช่วยให้เกิดผลดีต่อสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้ ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองพิสูจน์ ด้วยการหยุดโกรธ แล้วหันไปให้อภัยแทนดูสิ แล้วจะรู้เองว่า สวรรค์ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล ที่แท้ก็ในใจของเรานี่เอง...
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น